>ยินดีต้อนรับเข้าสู่...ห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" อำเภอกระทุ่มแบน

วันพุธที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

ห้องสมุดประชาชนฯ ร่วมกับ กศน.ตำบลตลาดร่วมโครงการ "ปลูกการอ่าน สานปัญญา"

ห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" อำเภอกระทุ่มแบน ร่วมกับ กศน.ตำบลตลาด จำนวน  60 คน ร่วมปลูกต้น "ปรีดียาธร" จำนวน  9  ต้น บริเวณด้านข้างอาคารห้องสมุดประชาชน โดยนักศึกษา กศน.ตำบลตลาดจะเป็นผู้ดูแลรักษาต้นไม้ดังกล่าว
ข้อมูลสำคัญ 
ห้องสมุดประชาชนฯ ร่วมกับ กศน.ตำบลตลาดกระทุ่มแบน ร่วมกับปลูกต้น "ต้นปรีดียาธร" จำนวน 9 ต้น ชื่อพื้นเมืองอื่น: ตาเบบูยาเหลือง ชื่อสามัญ : Silver trumpet tree, Tree of gold, Paraguayan silver trumpet tree ... ชื่อวิทยาศาสตร์ : Tabebuia argentea Britt วงศ์: BIGNONIACEAE ถิ่นกำเนิด: อเมริกากลางและหมู่เกาะอินดีสตะวันตก ประเภท: ไม้ยืนต้นขนาดเล็ก สูงไม่เกิน 8 เมตร เป็นไม้ยืนต้นผลัดใบ เรือนยอดรูปไข่ เปลือกต้นสีน้ำตาล แตกเป็นร่องขรุขระ ลักษณะเป็นไม้เนื้ออ่อน กิ่งก้านเปราะหักง่าย แตกกิ่งก้านเป็นชั้น โตช้า เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วน ระบายน้ำดี แดดจัด ใบ: เป็นใบประกอบประกอบด้วยใบย่อย 5 ใบ ลักษณะใบหนาแข็ง และมีขนนุ่ม มีสีเขียวอมขาว ดอก: มีสีเหลืองสด ออกเป็นช่อๆ ละ 3-10 ดอก ลักษณะกลีบดอกติดกัน ก้านดอกเป็นหลอด ปลายแยกเป็น 5 กลีบ เมื่อดอกร่วงจะติดฝักและมีเมล็ด ขั้วดอกเหนียวและดอกจะร่วงยากกว่าเหลืองอินเดีย ดอกออกมากแต่ยังมีใบคงอยู่บนต้นมากไม่ร่วงหมดต้น ออกดอกเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ผล: เป็นฝัก ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร สีเทา มีเส้นสีดำ การขยายพันธุ์: ด้วยการเพาะเมล็ด และการตอน แต่การตอนจะโตได้เร็วกว่า การดูแล: ปลูกง่าย เจริญเติบโตได้รวดเร็ว ต้นไม้ตระกูลนี้ไม่ชอบน้ำมาก

ปลูกการอ่าน สานปัญญา 2 เมษายน


 กิจกรรมครั้งที่ 1 ประจำเดือน เมษายน 2555ปลูกต้นไม้ "ต้นลีลาวดี" 

 

  


ห้องสมุดประชาชน "เฉลิมราชกุมารี" อำเภอกระทุ่มแบน ร่วมกับนักศึกษา กศน.ตำบลบางยาง ร่วมกันปลูก "ต้นลีลาวดี" (Frangipani, Plumeria): ไม้ดอกไม้ประดับ ต้นไม้ประจำชาติลาว เริ่มปลูก เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2555 ปลูก จำนวน 1 ต้น สูง 30 เซ็นติเมตร สมาชิกผู้ดูแลรักษา นางสาวรจนาพร เพ็งแจ่ม นางสมาพร เหรา และนักศึกษา กศน.ตำบลบางยาง เป็นผู้ดูแลรักษา มีชื่อเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า ลั่นทม (Frangipani, Plumeria, Templetree) เป็นไม้ดอกยืนต้นในสกุล Plumeria มีหลายชนิดด้วยกัน เมื่อก่อนบางคนมีความเชื่อว่า ไม่ควรปลูกต้นลั่นทมในบ้าน เนื่องจากมีชื่อเป็นอัปมงคล คือไปพ้องกับคำว่า 'ระทม' ซึ่งแปลว่า เศร้าโศก ทุกข์ใจ แต่ปัจจุบันนิยมเรียกชื่อใหม่ ว่า ลีลาวดี และนิยมปลูกกันแพร่หลายอย่างมาก ชื่อพื้นเมืองอื่นๆ ได้แก่ จำปา, จำปาลาว และจำปาขอม เป็นต้น ลีลาวดี เป็นไม้ที่นำมาจากเขมร ทางภาคใต้ เรียกชื่อว่า "ต้นขอม" "ดอกอม" เล่ากันว่า ไม้นี้นำเข้ามาปลูกในไทย เมื่อคราวไปตีนครธม ได้ชัยชนะ นำต้นไม้นี้เข้ามาปลูก และเรียกชื่อเป็นที่ระลึกว่า "ลั่นธม" "ลั่น" แปลว่ ตี เช่น ลั่นฆ้อง ลั่นกลอง "ธม" หมายถึง "นครธม" ภายหลัง "ลั่นธม" เพี้ยนเป็น "ลั่นทม" ลีลาวดี เป็นพืชนิยมปลูกเพราะดอกมีสีสันหลากหลาย สวยงาม ได้แก่ขาว เหลืองอ่อน แดง ชมพู ฯลฯ บางดอกมีมากกว่า 1 สี ลีลาวดี เป็นไม้ประดับที่มีผู้สนใจปลูกกันอย่างมากในช่วงระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมา เนื่องจากติดใจในความงามของทรงต้น ใบ และดอกที่มีหลากสีสัน โดยเมื่อนำมาปรับปรุงพันธุ์แล้วจะได้สีที่แปลกใหม่อย่างต่อเนื่อง รวมทั้งดอกยังมีกลิ่นหอม อีกประการหนึ่งคือลีลาวดีเป็นพืชที่ปลูกง่าย โตเร็ว การดูแลรักษาไม่ยุ่งยาก อีกทั้งมีคุณสมบัติใช้เป็นสมุนไพร ในอดีตไม้ชนิดนี้จะไม่นิยมปลูกในบ้านเรือนเลย เพราะเนื่องจากความเข้าใจที่ผิดเกี่ยวกับความหมายของชื่อเดิมคือ “ลั่นทม” ทำให้ลั่นทมมีปลูกไว้เฉพาะในวัด และตามโบราณสถานต่าง ๆ ในช่วงระยะ 4-5 ปีที่ผ่านมาหลังจากเป็นที่รู้จักและคุ้นหูในนามของ “ลีลาวดี” เพียงเท่านี้ต้นลีลาวดีก็เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างมาก โดยเฉพาะในการจัดภูมิทัศน์และจัดสวนทั้งสวนในบ้าน บริเวณตึก อาคาร รีสอร์ท สถานที่ท่องเที่ยว และสถานที่ต่าง ๆ นอกจากนี้ปัจจัยหนุนสำคัญที่ทำให้ความต้องการลีลาวดีขยายตัวคือ การขยายตัวของธุรกิจสปา ซึ่งจะสังเกตเห็นได้ว่าในสถานประกอบการ สปานั้นนิยมนำดอกลีลาวดีมาเป็นไม้ประดับ เนื่องจากความสวยงามของรูปทรง สีสันและกลิ่นหอมเย็น ด้วยราคาที่สูงอย่างต่อเนื่องของลีลาวดี ทำให้มีเกษตรกรจำนวนมากหันมาปลูกลีลาวดีเพื่อการค้ากันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน เนื่องจากลีลาวดีต้นใหญ่นั้นหาได้ยากขึ้น ซึ่งเกษตรกรที่มีต้นลีลาวดีทั้งต้นใหญ่ กิ่งชำ และเมล็ด ก็จะมีลูกค้าไปติดต่อขอซื้อกันอย่างต่อเนื่อง ทำให้สามารถสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำให้แก่เกษตรกร ในสมัยก่อน มีต้นลั่นทมเพียง 2 สายพันธุ์คือ 1. ลั่นทมขาว อย่างที่เห็นกันตามวัดวาอาราม ลั่นทมขาวจะชอบแดด มีความสูงตั้งแต่ 3 - 7 เมตร ลำต้นและกิ่งก้านดูอวบ มีสีน้ำตาลปนเทา เป็นใบเดี่ยวรูปคล้ายหอก ยาว 20 - 30 เซนติเมตร ดอกออกเป็นช่อใหญ่ที่ปลายกิ่ง ดอกมีสีขาวรูปกรวย มีกลีบดอก 5 กลีบ จะมีกลิ่นหอมมาก มีถิ่นกำเนิดมาจากประเทศเม็กซิโก 2. ลั่นทมแดง ทุกอย่างจะเหมือนลั่นทมขาว ยกเว้นใบ ที่บางครั้ง จะออกสีเขียวเข้ม ดอกมีสีแดงทั้งดอก ก้านออกเป็นสีม่วงแดง ดอกมีกลิ่นหอม ทั้งสองชนิดมีอายุยืน ตั้งแต่ 50 ถึง 100 กว่าปี ดอกลีลาวดี ยังเป็นดอกไม้ประจำชาติ ของประเทศลาว โดยส่วนมากจะขึ้นอยู่ตอนเหนือของประเทศ ไทยทางขึ้นพระธาตุที่เมืองหลวงพระบาง